Maneerat Sriwichaijan เป็นลูกค้าที่นี้มาเข้าปีที่ 4 แล้วค่ะ เข้ามาครั้งแรกเพราะมีเชลล์มายื่นบัตรกิ๊ฟเวอร์เชอร์บอกให้ทำหน้าฟรี 20,000บาท แล้วก็ลากเราเข้าไปในร้านให้แสกนผิวหน้า บอกมีปัญหาต้องทำโน้น นี่ นั้นมากมาย ก็ตกหลุมซื้อครอสเข้าไป พอเข้าไปทำหน้าแต่ละครั้งก็จะโดยขายครอสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยื่งถ้าจ่ายด้วยบัตรเครดิต เชลล์ก็ยิ่งกระหน่ำขายครอสเพื่อเอาเงินจากเราให้ได้มากที่สุด จนบางครั้งมากดโทรสัพเราเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตเราเพื่อจะรุดบัตรเพิ่ม ให้เราเป็นหนี้บัตรเครดิตเยอะๆค่ะ และเวลาทำหน้าพ่นวิตามิตอะไรต่างๆออกมาก็ไม่เห็นจะมีความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย หน้าไม่ได้ดูดีขึ้นเลยทั้งที่ทำมาหลายครั้งละ ตอนฉีดโบท็อกก็ไม่เคยเอาขวดโบท็อกมาให้เห็น ไม่ได้เห็นว่าเป็นโบท็อกยี่ห้ออะไร นำเข้ามาจาก USA จริงหรือเปล่า แล้วเป็นของแท้หรือไม่ก็ไม่รู้ ผสมอะไรมาฉีดหน้าให้เราก็ไม่รู้ เค้าจะให้เรานอนรอฉีดค่ะ โดยที่เราจะไม่เห็นวิธีการ ขั้นตอนการเตรียมน้ำยาฉีดทั้งนั้น รู้ตัวอีกที่ก็มีหมอมาฉีดหน้าให้ละ เรามารู้จากพี่สาวว่าการฉีดโบท็อก หมอจะต้องเอาขวดมาให้เราดูแล้วมาอธิบายว่าเป็นของแท้นะ ไม่มีน้ำเปล่ามาผสมนะ และจะให้ลูกค้าแสกนบาร์โคดเพื่อความบริสุจน์ใจ แต่ที่คลีนิคนี้ ไม่มีเลยไม่เคยได้เห็น และทำทุกอย่างเป็นความลับมาก
3 วันก่อน เราโดนหลอกให้ซื้อครอสบลูไดม่อน เป็นยาฉีดเพื้อช่วยลดรอยสิว รอยแดงจากสิว โดยเชลล์เข้ามาขายในห้องทำหน้าเลย พูดบีบบังคับให้ซื้อให้ได้ เรารู้สึกอึดอัดมาก ขายราคาแพงมาก จากราคา 25,000 ต่อขวด แล้วมาบอกโปรโมชั่นสำหรับวันนี้ ซื้อคู่2ขวด ราคา 25,000 แล้วไม่มีหมอมาประเมินให้ว่าเคสนี้ต้องฉีดกี่ขวดถึงจะหาย โดยเชลล์ขายเองเลยว่าซื้อ 4ขวดแถม 1 ขวด เป็นโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าท่านนี้เลย เราบอกว่าเรายังเหลือครอสทำรูขุมขนที่มันจะช่วยดูแลผลัดเซลลผิวและช่วยทำให้รอยสิว จุดด่างดำพวกนี้หายไปด้วยอยู่นะ แต่เชลล์ก็ขายครอสอยู่นั่นแหละถ้าไม่เอาก็ไม่จบ เราบอกไม่มีตังจ่ายหรอก แพงขนาดนี้ แล้วก็พูดว่ารู้ว่าเรามีบัตรเครดิตก็จ่ายบัตรแล้วทำผ่อนได้ แล้วก็เอาบัตรเครดิตไปรูด พอดีใช้วงเงินบัตรไปบ้างแล้ว เลยรูดได้ไม่เต็ม50,000 แต่รูดไปได้ 45,000 แล้วเข้ามาพร้อมให้เราแสกนคิวอาร์โค๊ดอีก 5,000 เสร็จแล้วก็ฉีดบลูไดม่อนไป 1 เข็ม ฉีดเสร็จออกจากห้องทำหัตการมาคิดว่าจะจบแล้ว แต่ๆๆ ยังไม่จบเราก็รีบจะกลับบ้าน ก็มีผู้หญิงอีกคนนึ่งเข้ามานั่ง มาพูดขายครอสตัวเดิมเพิ่ม บอกว่าไหนๆก็ผ่อนอยู่แล้วเดือนละ 11,xxx อยู่แล้ว เค้าจะทำให้ผ่อนลดลงเหลือเดือนละ 10,000 *10 เดือน พร้อมกับเสนอของแถมอีกมากมายมาล่อใจลูกค้า เราก็บอกว่าไม่เอาหรอกมันเยอะเกินไปแพงเกินไป แล้วก็มาเสนอใหม่ว่าให้ล่วนลดอีก 5,000 แล้วแถมให้อีก 2 ขวด พร้อมทั้งเอารูปคนอื่นที่ทำไปแล้วให้ดูถึงผลลัพความแตกต่าง ล่อใจลูกค้าต่างๆนาๆ เราก็ลำคาญอยากกลับบ้านก็เลยบอกว่าบัตรเครดิตเต็มวงเงินแล้วนะ เค้าก็เอาพูดว่าให้น้องช่วยเพิ่มวงเงินชั่วคราวให้ แล้วเค้าก็ถือวิสาสะหยิบโทรศัพท์เอาไปกดเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตแต่มันเพิ่มได้ 25,000 แล้วรีบเอาบัตรไปรูดเลย แล้วมาเขียนบิลใบเสร็จให้ สรุปรูดบัตรเครดิตไป 70,000 แสกนจ่ายไปอีก 5,000 แล้วยังเขียนค้างอีก 20,000 รวมทั้งสิ้น 95,000 เรากลับบ้านมาแล้วเครียดมากนอนไม่หลับที่โดนเขาหลอกพร้อมเป็นหนี้บัตรเครดิตไปเกือบแสน ใครคิดจะเข้าร้านนี้คิดให้ดีนะคะเอาเครสนี้เป็นอุทาหรธ์ค่ะ
1 /5
piyanan sonlert พึ่งเคยทำหัตถการเกี่ยวกับความสวยความงามครั้งแรก น้องพนักงานบริการดี น้องที่ดูแลก็ให้คำแนะนำเยอะ พูดจาไพเราะ ช่วงไหนที่ไปเจอลูกค้าเยอะๆ ยิ่งมั่นใจว่าการบริการและการดูแลต้องดี ทำให้มีลูกค้าเหนียวแน่น
5 /5
Bim Titar เข้าคลินิกมาหลายที่มากแต่ไม่เคยเจอที่ใหนแย่ขนาดนี้ เห็นโปรเลเซอร์Q switch 1,099 เราเลยสนใจอยากลองไปทำดู
สรุปไปถึงคลินิก เซลล์พาเข้าเครื่องสแกนหน้าแล้วบอกหน้ามีปัญหาเยอะต้องทำทรีตเมนหน้า ไม่มีหมอมาประเมินหน้าใดๆทั้งนั้น โดนขายคอร์ส เป็นหมื่นๆ ทั้งๆที่เราอยากแค่เลเซอร์รอยสิวนะ อุตส่าห์เดินทางไปไกลก็ไกล ถึงซีคอน เสียความรู้สึกสุดๆ
1 /5
S L ้เจ้าหน้าที่น่ารัก บริการดี สะอาด สบาย
5 /5
Prechada Beezii สวัสดีค่ะ วันนี้จะขอเข้ามารีวิวเกี่ยวกับคลินิกนี้นะคะ ไม่ทราบว่ามีใครเจอประสบการณ์นี้แบบนี้เหมือนเราหรือไม่ เรื่องนี้มีอยู่ว่า เราทัก Facebook page ของทางคลินิกไปค่ะ และได้คุยกับเซลล์ เราเลือกเป็นโปรแกรมฉีดผิว “Super Star White DNA IV ในราคา 1,599 บาท/ครั้ง“ จากนั้นก็คุยรายละเอียดกับทางเซลล์ ซึ่งเขาแจ้งว่าถ้าพื้นผิวเป็นคนขาวอยู่แล้วและอยากเห็นผลเร็ว ควรมาฉีดซัก 5-6 ครั้ง โดยทุกๆ 2-3 อาทิตย์ควรมา 1 ครั้ง เราก็โอเคค่ะ (คิดในใจเดี๋ยวค่อยไปเดือนละครั้งก็ได้เพราะเราไม่ได้รีบอะไร) จากนั้นก็วางสายไป เซลล์ก็ได้ส่งรายละเอียดทุกอย่างมาให้เราอ่านใน Facebook อีกครั้ง เราก็ตกลงและโอนเงินจองทำไป และได้คิวทำในวันถัดไปในเวลา 13:00 น. จากนั้นพอเราไปถึงคลินิก ทางเซลล์ก็ให้เราเขียนกรอกประวัติยังไม่ทันเสร็จ ในระหว่างที่กรอกประวัติ จู่ๆ เซลล์มาเดินบอกว่าวันนี้หมอไม่เข้านะคะ เราก็เอ๊ะ จากนั้นก็มาทักเราเรื่องฝ้ากระบนใบหน้าแล้วชักชวนเราให้ทำทรีทเม้นท์หน้า (ประมาณว่าไหนๆ หมอก็ไม่เข้ามาทำทรีทหน้าดีไหม) เราก็งงค่ะ คือหมอไม่เข้าทำไมไม่โทรแจ้งเราก่อนที่เราจะเดินทางมา ซึ่งเราเสียเวลาไปแล้ว ทำแบบนี้เหมือนการเป็นมัดมือชัก แล้วหลังจากนั้นก็พาเราไปสแกนหน้าและคุยปัญหาเรื่องปัญหาผิว โดยที่เราก็ยอมรับนะว่ากำลังอ้ำๆ อึ้งๆ อยู่ สักพักเซลล์ก็ได้มีการคุยบอกว่าเรื่องฉีดผิวและราคา 1,599 ที่แจ้ง ได้แค่ฉีดกระตุ้นคอลลาเจนนะ ไม่ได้มีผลกับการฉีดผิวให้ขาว ซึ่งถ้าอยากแบบ Full package เลย ต้องจ่ายทั้งหมด 5,000 บาทถ้วน เราก็อ้าว ไม่ได้เหมือนที่ตกลงกันไว้หนิ แล้วทำไมคุณไม่แจ้งรายละเอียดทั้งหมดตอนที่คุยกันในแชท Facebook ตั้งแต่ทีแรกที่คุยกัน ต้องรอให้ลูกค้าเข้าไปคลินิกก่อนแล้วถึงจะบอกหรอ
1. คือหมอเข้าก็ไม่มีการโทรแจ้ง พากันมองหน้าแล้วโบยให้คนนั้นคนนี้ว่าไม่ได้โทรบอกลูกค้าก่อนหรอ
2. แล้วก็จะยัดเยียดคอร์สฉีดผิวจากราคา 1,599 เป็นราคา 5,000 เพราะจะมีตัวยาหลายอย่างนั่นนู่นนี่ (โดยแพ็คเก็จ 5,000 ก็ยังต้องมาฉีด 5-6 ครั้งเหมือนเดิมถึงจะเห็นผล) แถมยังยื่น QR Code ให้สแกนแล้วบอกให้เรามาพรุ่งนี้อีก ซึ่งเรายังไม่ได้ตกลงอะไรเลยทั้งสิ้น ตอนแรกเราก็ตกในภวังค์คำพูดเค้านะคะ แต่ดึงสติมาได้ ก็เออโอเคเราไม่ทำอะไรทั้งนั้นแล้วค่ะ
ก็เข้าใจค่ะว่าหิวยอดค่ะ ลูกค้าบางคนเค้าก็มีงบจำกัด บางคนเค้าก็สามารถจ่ายได้ แต่สำหรับเรามองว่า คุณควรจะความซื่อสัตย์กับลูกค้า และต้องบอกรายละเอียดทั้งหมดก่อนที่ลูกค้าจะเข้ามาใช้บริการ และที่ไม่ประทับใจคือหมอไม่เข้าก็ไม่โทรแจ้ง แถมยังมาบอกว่าให้ทำทรีทเม้นหน้าก่อน พรุ่งนี้ค่อยใหม่ เสียเวลาเดินทางมาก จรรยาบรรณเป็น 0 แล้วลูกค้าไม่ได้ทำ ก็ยังมาชวนทำทรีทเม้นหน้าอีก ไม่น่าเกลียดไปหน่อยหรอคะ
สรุปเรื่องนี้ก็คือ เงิน 1,599 ที่เราโอนจองไป เราก็ไม่ได้ทำแล้วค่ะ เสียความรู้สึกมาก ถือว่าจ่ายทิ้งไปเลยละกัน
ที่มาพูดก็คืออยากให้พูดความจริงกับลูกค้าก่อนไม่ใช่หลอกให้เค้าไปคลินิกแล้วก็มาอัพเซลล์ สำหรับเราไม่โอเคเลยค่ะ
1 /5