วัดดอกไม้

ธวัชชัย อารีย์ พระอุโบสถ – มีลักษณะเป็นรูปทรงพระที่นั่งจตุรมุข โดยมุขทางด้านหน้าเป็นทางเข้า มุขทางด้านหลังเป็นที่ประดิษฐานพระศรีสัมพุทธมุนี ซึ่งเป็นพระประธานในพระอุโบสถ มุขทางด้านเหนือเป็นที่นั่งสำหรับสาธุชน มุขทางด้านใต้เป็นที่ตั้งของอาสนะสงฆ์ โดยมุขแต่ละด้านจะมีจิตกรรมฝาหนังที่วาดเป็นภาพจำลองของปูชนียสถานสำคัญตามแต่ละภาคในประเทศ นอกจากนี้ยังมีระเบียงคดล้อมตัวพระอุโบสถอยู่ ซึ่งภายในระเบียงคดนั้นก็มีพระพุทธรูปที่ได้รับถวายมาจากประชาชนและตระกูลต่าง ๆ ประดิษฐานอยู่ด้วย

Shizuka Indy เป็นอีกร้านสังฆภัณฑ์ในย่านสวนสยาม พระยาสุเรนทร์ ที่มีอุปกรณ์ สังฆภัณฑ์ต่างๆครบครัน บริการดี มีราคาติดชัดเจน อยากได้อะไรบอกพี่เจ้าของร้าน ติดอย่างเดียว ที่จอดรถมี 2 ช่อง เข้าออกยากนิดนึงค่ะ

Suporn Kulwatnantachai วัดเก่าแก่ขนาดไม่ใหญ่​ สร้างเมื่อสมัยต้นกรุง​ธนบุรี​ ไม่ทราบประวัติและนามผู้สร้าง​ ที่ได้นามว่าวัดจันทร์​ใน​ เป็นเพราะว่ามีอีกวัดหนึ่งนามว่าวัดจันทร์​นอก​ ซึ่งสร้างขึ้นมาในระยะพร้อมๆกัน​ วัดตั้งอยู่​ในซอยเจริญ​กรุง​ 107 (ประดู่​ 1)​ เข้ามาลึกพอควรเมื่อข้ามคลองวัดจันทร์​แล้ววัดจะอยู่ซ้ายมือ​ เมื่อเข้าวัดจะมีลานจอดรถ​ มีศาลาตั้งพระพุทธ​รูปหลายองค์​ ด้านหลังเป็นศาลาการเปรียญ​ ถัดเข้าไปหลังวัดเป็นพระอุโบสถ​ขนาดเล็ก เป็นแบบขนบเดิม​ มี​ช่อฟ้า​ใบระกา​หางหงส์​ หน้าบันมีพระปางมารวิชัย​ ด้านหน้ามีพาลัย​หันไปทางทิศตะวันออก​ ใบเสมามีหลายรุ่น​ ด้านหน้าเป็นหินทรายแดง​สมัยอยุธยา​ ตั้งอยู่​บนฐานสี่เหลี่ยม​ ด้านข้างและด้านหลังเป็นใบเสมารุ่นหลังอยู่ในซุ้มสี่เหลี่ยม​ ไม่เปิดให้เข้า​ เมื่อเดือนก่อนผมได้มาไหว้พระเก้าวัดแถบสีลมสาทร​ วันนี้ผมมาไหว้พระต่อแถบบางคอแหลม​ เริ่มจากวัดลุ่ม​เจริญ​ศรัทธา​ วัดวร​จรรยา​วาส​ วัดราชสิงขร​ และวัดลาดบัวขาว​ ก่อนมาวัดจันทร์​ใน​ แล้วจะไปต่อวัดอินทร์​บรรจงครับ

P. Sergiu วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร เป็นวัดแห่งหนึ่งในเขตพระนครที่มีพื้นที่กว้างและอาคารอุโบสถที่สวยงาม พร้อมอาคารวิหารแบบสไตล์ตะวันตกอยู่ภายในด้วย ภายจะมีนิทรรศการแบ่งเป็นห้องๆ จัดแสดงองค์ความรู้กับวัตถุต่างๆมากมาย พร้อมการตกแต่งด้วยการฉายแสง สี เสียง เนื่องในงาน "20 ปีววิรญาโณ ตามรอยพระบาท พระจอมเกล้าฯ ทรงพระผนวช 200 ปี" (07/09/2567)

Pornchai Wessatada เป็นบุญของผมและภรรยาที่ได้เข้าชมพระอุโบสถ นมัสการหลวงพ่อพระสุกพระประธาน กราบพระบรมอัฐิ ร.4 และ ร.5 ชมจิตรกรรมฝาผนัง ชมต้นส้มเกลี้ยง ต้นมะม่วงมหาชนกปลูกโดย ร.10 ขอขอบพระคุณพระครูต่อที่พาชมและเล่าประวัติวัดอย่างละเอียด

Tang Raksat กิจกรรมที่ควรค่าแก่การมาทำ ปั่นจักรยานไปชมทะเลกรุงเทพ ผ่านเส้นทางร่มรื่น อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเลย วันนี้มากินข้าวร้านลุงโหเสร็จช่วง16.00แล้วมาปั่นจักรยานที่นี่ต่อ อากาศกำลังดี แดดเริ่มน้อย เช่าจย.ไฟฟ้า มีสองขนาด 150และ250บาท จย.ปั่นเอง 40 บาท ไม่จำกัดเวลา Nov24 ระยะทางรวมประมาณ 4km. ถึงชายทะเลเลย ด้านในวิวดีมาก มาช่วงพระอาทิตย์กำลังตก สวยงาม ลมเย็นคุ้มค่าครับ

Suporn Kulwatnantachai พระอาราม​หลวง​ขนาดใหญ่​พอควร​ เป็นวัดโบราณที่สร้างมาตั้งแต่​สมัย​อยุธยา​ เดิมชื่อว่าวัดท่าเกวียน​ เนื่องจากเคยเป็นที่พักแรมของ​กองเกวียนที่เดินทางเข้ามาค้าขายในกรุงเทพ​ แต่ต่อมาชาวบ้านก็เรียกชื่อวัดนี้ว่าวัดตะเคียน​ สันนิษฐาน​ว่าเรียกชื่อวัดตามต้นตะเคียนที่ขึ้นหนาแน่น​ ต่อมาในสมัยรัชกา​ลที่​ 4​ ครั้งยังเป็นวชิรญาณภิกษุได้เสด็จมาพระราชทานผ้าป่าที่วัดนี้​ ในคราวนั้นพระอธิการแก้วเจ้าอาวาสได้ทูลถวายพยากรณ์​ว่าจะได้เป็นเจ้าชีวิตในเร็วนี้​ พระองค์​จึงมีรับสั่งว่า​ถ้าได้ครองแผ่นดินจริงจะมาสร้างวัดให้อยู่ใหม่​ หลังเสด็จขึ้น​ครองราชย์​จึงโปรดให้พระราชทานสมณศักดิ์​พระอธิการแก้ว​ เป็นพระมหาพฤฒ​า​จารย์​ และโปรดให้สร้าง​พระอารามใหม่​โดยโปรดเกล้าฯ​ให้สมเด็จ​ เจ้า​พระยาบรมมหาพิชัย​ญาติ​ (ทัด)​ เป็นแม่กองในการสถาปนา​ ​เมื่อทำการก่อสร้างแล้วเสร็จ​ จึง​โปรดฯ​ ให้สถาปนาขึ้นในพระอารามหลวง​ พระราชทาน​นามว่า​ วัดมหาพฤฒาราม ตั้งอยู่​ทางฝั่งตะวันออกของคลองผดุง​กรุง​เกษ​ม​ บนถนนมหาพฤฒาราม​ เมื่อเข้าวัดจากลานจอดรถจะเห็นด้านหลังพระอุโบสถ​และพระวิหาร ทั้งสองหลังเป็นแบบขนบเดิม​ มี​ช่อฟ้า​ใบระกา​หางหงส์​ หน้าบัน​พระอุโบสถ​เป็นรูปพระมงกุฎ​ ตราสัญญลักษณ์​ประจำรัชกาล​ที่​ 4​ หันหน้า​ไปทางทิศ​ตะวันออก​ มีพระอินทร์​แปลง​ พระปางมารวิชัยเป็น​พระประธาน​ ภายในมี​ภาพจิตรกรรมฝาผนัง​เรื่อง​ธุดงควัตร​ 13 แทนเรื่องทศชาดกหรือพุทธ​ประวัติตามวัดทั่วไป​ และใช้เทคนิคการเขียนภาพแบบตะวันตก​ ส่วนหน้าบันพระวิหารเป็นรูปจุลมงกุฏ ตราสัญญลักษณ์​ประจำรัชกาลที่​ 5 มีหลวงพ่อสุโขทัย​ พระปางมารวิชัย​เป็น​พระประธาน​ ด้านหน้ามีพระปาง​มารวิชัยขนาดรอง​ลงไป 5 องค์​ ระหว่างพระอุโบสถ​และพระวิหารมีพระปรางค์​สีขาว เรือนธาตุย่อมุมไม้สิบสอง​ มีซุ้มจรนัมสี่ทิศ​ ตั้งเรียงแถวกัน 4 องค์​ พระปรางค์​นี้มีมาแต่เดิม​ ต่อมาเมื่อรัชกา​ลที่​ 4​ โปรดเกล้าฯ​ ให้​ปฏิสังขรณ์​วัด​ จึงให้ก่ออิฐพอกพระปรางค์​องค์​เดิมให้มีขนาดใหญ่ขึ้น​เพื่ออุทิศถวายพระพุทธ​เจ้าทั้ง​ 4 พระองค์​ที่ปรินิพพาน​ไปแล้ว​ ทางขวานอกกำแพงแก้วมีพระวิหารพระพุทธ​ไสยาสน์​ เป็น​แบบขนบเดิม​ มี​ช่อฟ้า​ใบระกา​หางหงส์​ หน้าบัน​มี​รูป​พระเจดีย์​จุฬา​มณี​ มีพระพุทธ​ไสยาสน์ผินพระพักตร์​ไปทางทิศเหนือสู่พระอุโบสถ​ เป็นพระ​พุทธ​ไสยาสน์​ที่มีมาแต่เดิม​ แต่รัชกาล​ที่​ 4​ ทรงปฏิสังขรณ์​ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น​ เป็นรองแค่พระพุทธ​ไสยาสน์​ที่วัดพระเชตุพน​ หน้าพระอุโบสถ​มีประตูวัดออกซอยไปถนนมหานคร​ได้ เมื่อสัปดาห์​ก่อนผมได้ไปไหว้พระเก้าวัดแถบราชเทวี​ วัน​นี้ผมมาไหว้พระต่อแถบสาทรสีลม​ เริ่มจากวัดบรมสถล​ วัดสุทธิ​วราราม​ วัดยานนาวา​ วัดสวนพลู​ วัดม่วงแค และวัดแก้วแจ่มฟ้า​ ก่อนมาวัดมหาพฤฒาราม​ แล้วจะไปต่อวัดดวงแขครับ

ธวัชชัย อารีย์ วัดดาวดึงษาราม เป็นวัดที่สวยงามมากๆ สะอาด และมีภาพวาดฝาผนัง และบานประตูที่สวยงามมาก พระอุโบสถมีความงดงามมาก ตอนไปถ่ายรูปเป็นช่วงพระทำวัตรเช้า ขนาดไม่สามารถเดินเข้าไปได้ลึกยังรู้สึกกับความสวยงามภายในของพระอุโบสถของวัดแห่งนี้จริงๆ วัดดาวดึงษาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่ในแขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร วัดสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 โดยดำริของเจ้าจอมแว่น ในรัชกาลที่ 1 หรือคุณเสือที่ได้สร้างวัดไว้กลางสวนตำบลบางยี่ขัน ธนบุรี เดิมชื่อว่า วัดขรัวอิน คุณเสือได้สร้างพระอุโบสถก่ออิฐสูงพ้นดินประมาณ 2 ศอก เอาไม้แก่นทำเสาประธาน หลังคามุงกระเบื้องฝาผนังไม้สัก มีบานประตูหน้าต่างเข้าออก ในสมัยรัชกาลที่ 2 มีเจ้าลาวคนหนึ่งเป็นผู้หญิงชื่อ อิน ได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะสงฆ์ รื้อกุฏิเดิมซึ่งเป็นไม้ ก่อเป็นตึก ใช้ไม้แก่นเป็นเสาประธาน หลังคามุงกระเบื้อง ฝาไม้ไผ่ขัดแตะถือปูน ดูเหมือนฝาผนังตึกมีประตูหน้าต่าง รื้อฝาผนังและหลังคามุงกระเบื้อง มีช่อฟ้าใบระกา ต่อมารัชกาลที่ 3 ได้พระราชทานนามใหม่ว่า วัดดาวดึงษาราม ซึ่งหมายถึง วัดเป็นที่สถิตของพระอินทร์ ซึ่งยังมีการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่โดยพระยามหาเทพ (ปาน) ต้นตระกูลปาณิกบุตร ได้ก่อร้างพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ และถาวรวัตถุอีกมากมาย ในอุโบสถมีจิตรกรรมฝาผนัง เรื่องราวทศชาติชาดก เรื่องพระมหากัสสปะ เรื่องพระเจ้าทธิวาหนะ เรื่องพระนางสามาวดี เป็นต้น เชื่อกันว่า เป็นฝีมือของครูกงแป๊ะ (หลวงเสนีย์บริรักษ์) และครูทองอยู่ (หลวงวิจิตรเจษฎา) ช่างฝีมือเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ในยุคนั้น

Suporn Kulwatnantachai วัดมหายานฝ่านอันนัมนิกาย​ขนาดเล็ก​ ชื่อในภาษาญวนออกเสียงว่า วัดตื้อเต้ตื่​อ​ สร้างสมัยปลายรัชกา​ลที่​ 3​ โดยพ่อค้าชาวจีนและญวน​ ร่วมกันสร้างเป็นที่สำนักสงฆ์​ เพื่อใช้เป็นศาสนสถานประกอบศาสนกิจ​ ตามลัทธิ​พิธีทางพุทธ​ศาสนา​มหายาน​ ต่อมารัชกาลที่​ 5​ ทรงโปรดเกล้า​ฯ​ พระราชทานชื่อ​ วัดโลกานุ​เคราะห์​ วัดตั้งอยู่​ในซอยผลิตผล​ (ซอยที่​ ดร.ซุนยัดเซ็น​ เคยมาปราศรัย​)​ จากถนนเยาวราช​เลี้ยวขวาเข้าถนนราชวงศ์​ซอยแรกทางซ้ายมือ​ เข้าซอยมาไม่ลึกวัดจะอยู่​ขวามือ​ เข้าไปจะเป็นโบสถ์​มีภาพจากซ้ายไปขวาคือ​ พระอมิตาภะ พระศากยมุนี​ และพระไภษัชยคุรุ​ ตามแบบวัดพุทธ​มหายาน​ ด้านหน้ามีพระยืนขนาดใหญ่สามองค์​ องค์​กลางเป็นแบบมหายาน​ องค์​ซ้ายเป็นปางห้ามญาติ​ องค์​ขวาเป็นปางห้ามสมุทร​ มีพระนั่งปางมารวิชัย​เป็น​พระประธาน​ มีพระอัครสาวกสองข้าง​ มีพระยืนขนาดรองข้างซ้าย​ 4 องค์​ ข้างขวา​ 3 องค์​ หน้าสุดมีพระนั่งขนาดรองแบบมหายาน​ 3 องค์​ ด้านขวามือ​มีซุ้มพระโพธิสัตว์​กวนอิม​ ด้านซ้ายมือมีซุ้มเจ้าพ่อเสือ​ ด้านหน้าทางขวามีพระพุทธ​มงควิโรจน์​เป็นพระปางมารวิชัย​ ถัดไปเป็นเทพเจ้า​แห่งโชคลาภ​ ไฉ่ซิงเอี๊ย​ ด้านหน้าทางซ้ายมีเทพเจ้า​คุ้มครองดวงชะตา ไท้เสียงเล่ากุง​ และ​ไท่ส่วยเอี๊ยะ​ เมื่อเดือนก่อนผมได้มาไหว้พระเก้าวัดแถบเยาวราช​ วันนี้​อยู่ในช่วงเทศกาลกินเจ​ ผมจึงมาไหว้พระวัดนิกายมหายาน​ เริ่มจากวัดทิพย์​วารี​ ก่อนมาวัดโลกานุ​เคราะห์​ แล้วจะไปต่อวัดบำเพ็ญจีน​พรต​ครับ

Mila Jayasuwirta วัดแห่งนี้มีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ สวยงาม เหมาะสำหรับนั่งสมาธิและสักการะ โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมายที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปได้ มีพื้นที่สวดมนต์เริ่มต้นตั้งแต่สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพานจากการเดินทางของสิทธัตตะโคตมะ บริเวณนี้ยังมีต้นโพธิ์จากอินเดียซึ่งเจ้าอาวาสนำมาปลูกเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศเหมือนไปแสวงบุญที่อินเดีย สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาที่น่าสนใจ