วัดทองบน

Suphakorn Panyangam รีวิวย้อนหลัง เคยมากราบรูปหล่อหลวงพ่อวงษ์ อดีตเกจิอาจารย์ชื่อดัง วัดสวยมากครับ ส่วนประวัติก็ตามนี้ครับ วัดปริวาสราชสงคราม เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ดังมีหลักฐานยืนยันเป็นแผ่นทองคำจารึกไว้ กล่าวคือ เมื่อครั้งที่หลวงพ่อวงษ์บูรณปฏิสังขรณ์องค์เจดีย์หน้าอุโบสถ โดยมีพระอาจารย์สมชาย ฉันสโร เป็นผู้ช่วย และจากการในครั้งนี้ได้พบแผ่นทองคำจารึกนามผู้สร้างเจดีย์ ช่วงส่วนบนของ “คอระฆัง” พระเจดีย์จารึกระบุว่า ยายเมืองเป็นผู้สร้างเจดีย์ไว้เมื่อปี พ.ศ.2421 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แม้จะไม่ใช่วัดหลวง แต่จัดเป็นวัดใหญ่ที่ประกอบด้วย อุโบสถ วิหาร และพระมหาเจดีย์ เขตแนวกุฏิสงฆ์อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา การจราจรสะดวก ด้วยในสมัยก่อนนั้น มักใช้แม่น้ำลำคลองในการสัญจร แต่ปัจจุบันใช้ถนนพระราม 3 เป็นเส้นหลักในการสัญจร เจ้าอาวาสที่ปกครองวัด ตามที่มีผู้สืบค้นไว้มีอยู่ 9 รูป ได้แก่ หลวงปู่ม่วง หลวงปู่สุข พระอธิการเฮ้า พระอธิการเปลี่ยน พระอธิการโคก พระปลัดไม้ พระครูขันติยาภิราม (พระอุปัชฌาย์วงษ์) พระครูใบฏีกาเจียม สุขิโต พระครูพิศาลพัฒนพิธาน หลวงพ่อวงษ์ เกิดวันเสาร์ที่ 7 มิ.ย.2445 บ้านเลขที่ 193 ต.บางโพงพาง อ.บ้านทวาย กรุงเทพฯ บิดา-มารดา ชื่อ นายเลียบและนางจั่น เจริญกุล ช่วงวัยเยาว์ บิดาพาไปฝากเรียนหนังสือกับพระที่วัดปริวาส สอบไล่ได้เทียบชั้นระดับประถมศึกษา 4 เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดปริวาส เมื่อวันพุธที่ 17 มิ.ย.2468 โดยมีพระครูวินยานุบูรณาจารย์ (หลวงพ่อเชย) วัดโปรดเกศเชษฐาราม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดไม้ วัดปริวาส เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอธิการน้อย วัดด่าน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า วังสปาโล เดินทางไปศึกษาที่สำนักเรียนวัดทองธรรมชาติ วัดจักรวรรดิราชาวาส (สามปลื้ม) วัดมหาธาตุ สอบได้นักธรรมชั้นตรี และเรียนภาษาบาลีแบบมูลกัจจายน์ ขอมบาลีและ ขอมไทยจนชำนาญ แต่ไม่ได้เข้าสอบเพิ่ม เนื่องจากพระปลัดไม้ มรณภาพในปี พ.ศ.2471 ทำให้หลวงพ่อวงษ์ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส รับการถ่ายทอดวิชาปรุงยาสมุนไพร รวมทั้งการจับยามสามตาจากพระปลัดไม้ ซึ่งมี ผู้ป่วยและลูกศิษย์มารับการรักษา นอกจากนี้ ยังเรียนรู้วิชาการเล่นแร่แปรธาตุ การรักษาโรค และการวิปัสสนากัมมัฏฐานจากปู่เนียน สังข์เนตร ฆราวาสแห่งอาศรมบางวัว และศึกษาการวิปัสสนากัมมัฏฐานจากหลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่นอก ในปี พ.ศ.2478 ซึ่งพระบวชใหม่ในแถบบางโพงพางช่วงนั้น ถ้าจะออกธุดงค์ต้องมาขึ้นกัมมัฏฐานกับหลวงพ่อพุ่ม ก่อนออกเดินธุดงค์ทุกครั้ง นอกจากนี้ ยังเป็นพระนักพัฒนาที่เก่งอีกด้วย หลังจากได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส ก็ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์อุโบสถ์ใหม่ สร้างศาลาการเปรียญ ศาลาอเนกประสงค์ รวมทั้งเสนาสนะอื่นๆ อีกหลายแห่ง และท่านมีความเคารพเลื่อมใสในหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน มรณภาพเมื่อวันที่ 2 ส.ค.2523 สิริอายุ 78 ปี พรรษา 55

Billy Than วัดใหญ่ในย่านสำเพ็ง ตลาดค้าส่งที่พลุกพล่าน ส่วนใหญ่มาตามรอยอาจารย์ไพศาล แสนไชยกัน มาถึงวัดช่วงเย็น ขับรถมา ค่อนข้างติด หาที่จอดรถยาก จะจอดในวัดได้ ถ้าเปิดที่กั้นหน้าประตู แต่ ถ้าที่กั้นขวาง ก็ขอให้เข้าใจว่ารถเต็ม จังหวะดีคือได้จอดในวัเ จอดในวัดไม่ได้ก็ให้ขับเลยมาหน่อย ที่ทางขวามือเป็นร้านขายผ้ากินรี จะเห็นชาวบ้านโบกให้เข้าไปจอดในซอยทางขวา คิดค่าจอด 40 บาท คนที่มาสักการะท่านเจ้ามา ให้เดินตรงเข้ามาตรงที่มีพระปรางค์ จะมีพวงมาลัย ธูป เทียน จัดไว้ ใส่ปัจจัย 40 บาท ต่อคน ใส่ตู้ จะได้คนละ 2 ชุด สำหรับไหว้พระพุทธบาทด้านหน้า ที่ขึ้นบันไดพญานาค หลังจากนั้น อีกชุด นำไปไหว้ท่านเจ้ามาด้านหลัง ขออนุโมทนาสาธุทุกท่าน

Tussanai .C วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร กรือที่ชาวบ้านเรียกอีกอย่างว่า วัดทุ่งสาธิต เป็นวัดเก่าแก่ ก่อสร้างประมาณ พ.ศ. 2399 ภายในวัดมีเจดีสีทองอร่าม มีอุโบสถที่ภายประดิษฐานพระธาตุหริภุญชัย มีการจำลองพระเจดีย์พุทธคยา และภายในวัดยังมีทำบุญทำทานให้อาหารโคกระบืออีกด้วย

PRATCHAYA PUNYASIRIDEE บรรยากาศเงียบสงบ ที่จอดรถกว้าง วันที่ไปโบสถ์ปิด สุนัขเยอะมาก แต่ค่อนข้างเป็นมิตร

Kinklaikrung Page ตลาดนัดกลางคืนจตุจักรกลับมาแล้ว!!! คิดถึงอารมณ์การได้กินเที่ยวตลาดตอนกลางคืนมากๆ วันนี้ได้มาอีกครั้ง ยังคงคึกคักเหมือนเดิม ของน่ากินเพียบเลย เพิ่มเติมคือมีร้านตามโซนต่างๆ เยอะขึ้น ทั้งโซนอาหาร เครื่องดื่ม ของใช้จิปาถะ เสื้อผ้า กระเป๋า แฟชั่นทันสมัย และงานแฮนด์เมด เดินเล่นช้อปปิ้งกันยาวๆ ตลอดทาง เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คใหม่ที่ตกเย็นทีไร ต้องแวะมาทุกอาทิตย์เลย

narcotics 007 วัดเทพธิดาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ตั้งอยู่ที่ริมถนนมหาไชย ใกล้วัดราชนัดดา ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 เดิมชื่อวัดบ้านพระยาไกรสวนหลวง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชการที่ 3) โปรดฯ ให้สร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระราชทานแก่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ พระราชธิดาองค์ใหญ่ สถาปัตยกรรมภายในวัดเป็นศิลปะในช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะจีน เนื่องจากในยุคนั้นมีการติดต่อค้าขายกับจีน อาคารเป็นแบบไม่มีช่อฟ้า ใบระกา รูปปั้นรอบๆ พระอารามที่เป็นตุ๊กตาจีนสลักหิน มีทั้งรูปคน ทั้งคนไทยและคนจีนแต่งกายด้วยเครื่องแบบต่างๆ ในหลายอิริยาบถ และรูปปั้นสัตว์ เช่น สิงโต ในพระวิหาร มีรูปหล่อลงรักปิดทอง หมู่ภิกษุณี จำนวน 52 องค์ นั่ง 49 องค์ ยืน 3 องค์ อยู่ในอิริยาบถต่าง ๆ หลากหลายท่า มีทั้งท่านั่งปฏิบัติธรรม ฟังธรรม ฉันหมาก สูบยา ยืนไหว้ นั่งพนมมือ และมีพระอริยสาวิกาองค์หนึ่งโดดเด่นเป็นสง่า อยู่ท่ามกลางรูปหล่อหมู่พระอริยสาวิกาทั้ง 52 องค์ คือ รูปหล่อ "พระมหาปชาบดีโคตมีเถรี" ภายในพระอุโบสถมีหลวงพ่อขาวประดิษฐานบนบุษบก เป็นพระประธานปางมารวิชัย สลักด้วยศิลาขาวบริสุทธิ์ หน้าตักกว้าง 15 นิ้ว สูง 21 นิ้ว รัชกาลที่ 9 ทรงถวายพระนามว่า พระพุทธเทววิลาส วัดแห่งนี้เคยเป็นวัดที่สุนทรภู่จำพรรษา ณ กุฏิในหมู่กุฏิคณะ 7 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2385 รวมเป็นเวลา 3 ปี ซึ่งปัจจุบันทางวัดได้อนุรักษ์กุฏินี้เอาไว้เป็นอนุสรณ์ถึงสุนทรภู่ และจัดตั้งพิพิธภัณฑ์สุนทรภู่ ที่เปิดให้บุคคลทั่วไป นิสิต และนักศึกษา ได้เข้ามาศึกษาองค์ความรู้จากกวีเอกท่านนี้ วันนี้ ดิฉันได้ไปถวายมาลัยแก่พระมหาปชาบดีโคตมี และรูปหล่อพระภิกษุณี 52 องค์ กราบถวายมาลัยพระรูป ในหลวง รัชกาลที่ 3 และพระรูปพระองค์หญิงที่ประดิษฐานในพระอุโบสถ ได้นั่งสมาธิประมาณ 20 นาที รู้สึกจิตสงบได้เร็ว และมีพลังเหมือนได้ชาร์จแบตเตอรี่ เติมเต็มกำลังใจให้กับตนเอง

สุวภัทร ชํานาญวนกิจ มหาเจดีย์เจ้าแม่กวนอิมพันมือ สร้างขึ้นมาได้ยิ่งใหญ่ แสดงถึงความ ศรัทธาของสาธุชน และความตั้งใจจริง,ความพยายามของเหล่าผู้ก่อตั้ง ในเวลากลางวัน บริเวณลานร้อนแสงแดดจ้า พอได้ขึ้นไปบนเจดีย์รู้สึกร่มเย็น กราบบูชาเจ้าแม่กวนอิม องค์ใหญ่ มีพันมือ พระพักตร์เปี่ยมเมตตา มี4ด้านของเจดีย์ นิยมกราบด้านหน้ากัน ที่นี่ไม่ได้มีองค์เทพครบแบบที่ตำหนัก จะเน้นที่เจ้าแม่เป็นสำคัญ จากนั้นมีการให้หยอดเหรียญลงวัตถุทรงถังไม้วาดลวดลายต่างๆ หยอดแล้วหมุนถัง แล้วเดินหมุนถังไปเรื่อยๆ จนรอบเจดีย์ แล้วมาตีระฆังใบใหญ่ใช้ไม้ซุงโยกเคาะระฆัง ขึ้นไปชมเจดีย์ ด้วยลิฟท์มีเจ้าหน้าที่บริการแนะนำตอนขึ้น ไปได้เพียง8 ชั้น ที่เหลืออีก4ชั้นมีบันไดขึ้นต่อ (คนพิการไม่สามารถ)ระหว่างชั้น8-12 ตามฝาผนัง,เพดานมีจิตรกรรมภาพวาดเกี่ยวกับพุทธประวัติ,เจ้าแม่กวนอิม,เทพ,ยักษ์ มีศิลปะปูนปั้น สวยงาม มองไปผ่านกระจกเห็นวิวบ้านเมือง รอบทิศ ชั้น11 มีพระบรมธาตุ หลายองค์ ประดิษฐานด้านบนฐานรอบเสากลางห้อง ชั้น12 เดินขึ้นบันไดแคบ ไปชั้นบนสุด ให้ระวังศีรษะจะชนคาน นัยว่าให้ใช้สติในการเดิน ด้านบน คือดาดฟ้ายอดเจดีย์ ลมแรง ไม่มีหลังคา มีวัตถุทรงกลมประดับกระจกปิดแวววาว เรียกว่าแก้วสารพัดนึก ชูขึ้นไปเป็นยอด เห็นวิวรอบด้าน นิยมถ่ายรูปกัน ตอนลงลิฟท์ให้กดเลข2 นะไม่ใช่ B ไม่เช่นนั้นจะลงไปชั้นใต้ดิน เดินขึ้นเนื่อยเลย รอบเจดีย์มีหินแกะสลัก สวยงาม ถ่ายรูปสวย สถานที่สะอาด มีจี้สร้อยหยก,กำไล,วัตถุมงคล ให้บูชาด้วย

Suphakorn Panyangam เชิญชวนมากราบไหว้ติดทองหลวงพ่อศิริไอย์ศวรรย์และพระพุทธรูปที่คนไทยนับถือ, รูปหล่อพระเกจิเถราจารย์เรืองวิทยาคมของสยามประเทศในวิหารหลวงพ่อศิริไอย์ศวรรย์ แต่อย่าลืมไปติดทองอดีตเจ้าอาวาสที่มณฑปบูรพาจารย์มีพระบรมสารีริกธาตุและรูปหล่อพระครูปลัดแพ อินทสโร และ พระราชรัตนาภรณ์ ที่วัดยังมีที่ทำบุญให้อาหารปลา วัดอยู่ใกล้กับอาคารรัฐสภา ผมมาทำบุญวันที่ 26/1/68 ส่วนประวัติ พระราชรัตนาภรณ์ ก็ตามนี้ครับ “พระราชรัตนาภรณ์” (บุญช่วย กัมมสุโภ) มีนามเดิมว่า บุญช่วย บูชา เกิดเมื่อวันที่ 12 เม.ย.2491 ที่บ้านเลขที่ 121 หมู่ 1 บ้านดอนกระเบื้อง ต.บางตะเคียน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ครอบครัวมีอาชีพทำนา ในช่วงวัยเยาว์ บรรพชาที่วัดบางสาม ต.บางตะเคียน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ขณะเป็นสามเณรได้ศึกษาเล่าเรียน พ.ศ.2512 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก และสอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค สำนักเรียนวัดสองพี่น้อง จนเมื่ออายุครบ 22 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2513 ณ วัดบางสาม มีพระครูอุภัยภาดาทร (หลวงพ่อขอม) วัดไผ่โรงวัว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระโกวิท โกวิโท วัดสอง พี่น้อง ต.ต้นตาล อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระมหาสอิ้ง สิรินันโท (พระธรรมพุทธิมงคล วัดป่าเลยไลยก์) วัดสองพี่น้อง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า กัมมสุโภ หมายถึง ผู้มีหน้าที่การงานอันสะอาด หลังอุปสมบท เดินทางไปศึกษาหาความรู้และศึกษาพระปริยัติธรรมในกรุงเทพฯ อยู่จำพรรษาวัดแก้วฟ้าจุฬามณี สามารถสอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค สำนักเรียนวัดชัยพฤกษมาลา เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ต่อมาในปี พ.ศ.2525 ท่านได้เดินทางไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยปัตนะ รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ใช้เวลา 3 ปี สำเร็จการศึกษาระดับชั้นปริญญาโท สาขาปรัชญาพระพุทธศาสนา ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2517 เป็นเจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้าจุฬามณี พ.ศ.2522 เป็นเจ้าคณะแขวงถนนนครไชยศรี-บางซื่อ เขต 3 พ.ศ.2523 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2532 รักษาการเจ้าคณะเขตบางซื่อ พ.ศ.2533 เจ้าคณะเขตบางซื่อ ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2546 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะเขตชั้นพิเศษ ในราชทินนามที่ พระครูศรีรัตนคุณ พ.ศ.2549 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระรัตนเมธี พ.ศ.2554 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชรัตนาภรณ์ พระราชรัตนาภรณ์ส่งเสริมให้พระภิกษุ-สามเณรภาย ในวัดทุกรูป ได้ศึกษาเล่าเรียนทั้งแผนกธรรม บาลี และสายสามัญ ให้แต่ละรูปมีความรู้ที่สูงยิ่งขึ้นไป เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการช่วยกันพัฒนาสังคมและประเทศชาติ โดยท่านได้ส่งเสริมและคอยช่วยให้กำลังใจแก่พระและสามเณร ทุกรูป เมื่อสอบได้จะให้รางวัลเป็นทุนการศึกษา ส่วนงานปกครองในวัด ท่านแนะนำสั่งสอนให้พระทุกรูปอยู่ด้วยกันแบบพึ่งพาอาศัยกันได้ ให้ทุกรูปมีหน้าที่ต่างกันในการรับผิดชอบ นอกจากนี้ยังส่งเสริมเด็กๆ เยาวชนของชาติ โดยวัดแก้วฟ้าจุฬามณีไม่มีโรงเรียนประจำ ท่านจึงได้เปิดเป็นศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายในวัด เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองเด็กที่ต้องไปทำงานหาเลี้ยงชีพในชุมชน ในตำแหน่งงานเจ้าคณะเขตบางซื่อ ได้จัดประชุมพระนวกะในเขตบางซื่อและ เขตดุสิตร่วมกัน จัดให้มีการสอบธรรมชั้นนวกภูมิควบคู่ไปกับการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานจำนวน 7 วัน ติดต่อกัน ส่วนวัดในเขตปกครอง ท่านได้เข้าไปดูแลแนะนำในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์และปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งมาด้วยดีโดยตลอด จนเป็นที่เคารพนับถือของพระภิกษุสามเณรในเขตทุกรูป นอกจากนี้ วัดแก้วฟ้าจุฬามณี ยังเป็นศูนย์รับบริจาคเครื่องอุปโภคและบริโภคต่างๆ เพื่อนำไปช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยอุทกภัย ในหลายจังหวัดเสมอ “พระราชรัตนาภรณ์” (บุญช่วย กัมมสุโภ) มรณภาพด้วยโรคมะเร็ง เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 11 ก.ย.2560 ที่โรงพยาบาลศิริราช สิริอายุ 69 ปี พรรษา 47

sea-zen papa วัดแสนสุข วัดประจำเมืองมีนบุรี ทำงานอยู่ใกล้ๆ วันไหนเห็นว่าแสงสวย ก็จะถ่ายรูปเก็บไว้ มีทั้งเช้า และเย็น นานๆ ทีก็จะเข้าไปทำบุญ ถวายสังฆทาน ให้อาหารปลา

Imm Chanprasit วัดจีนที่สวยงามมากๆ สะอาด ร่มรื่น เจ้าหน้าที่เป็นมิตรมาก ดีกับผู้สูงอายุเพราะมีทางให้รถเข็นวีลแชร์ และมีรถเข็นให้ยืมด้วย สวยงามมากๆ มาอีกแน่นอนค่ะ