วัดนางนองวรวิหาร
Suporn Kulwatnantachai พระอารามโบราณขนาดใหญ่ ไม่ทราบประวัติและนามผู้สร้าง สันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย แผ่นดินสมเด็จพระเจ้าเสือ ในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้โปรดให้ทำเป็นงานใหญ่ รื้อของเก่า และปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งพระอาราม เพราะในแขวงบางนางนองเป็นนิวาสสถานเดิมของสมเด็จพระศรีสุลาลัย (เจ้าจอมมารดาเรียม) พระราชชนนีรัชกาลที่ 3 การปฏิสังขรณ์ใช้เวลาร่วมสิบปีจึงแล้วเสร็จได้สถาปนาเป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่ริมคลองสนามชัยฝั่งตะวันออก บนถนนวุฒากาศข้างซอย 42 จากถนนจะเห็นด้านหลังพระอุโบสถ เป็นแบบพระราชนิยมสมัยรัชกาลที่ 3 ไม่มีช่อฟ้าใบระกาหางหงส์ หน้าบันประดับกระเบื้องจีน หันหน้าไปทางทิศตะวันตกสู่คลอง มีระเบียงรอบ เสาสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ หัวเสาไม่มีบัว ประตูและหน้าต่างมีซุ้มปูนปั้น มีพระพุทธมหาจักรพรรดิ พระพุทธรูปสำริดทรงเครื่องปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 2.25 เมตร เป็นพระประธาน ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เหนือหน้าต่างเป็นเรื่องชมพูบดี ซึ่งเป็นที่มาของพระพุทธรูปทรงเครื่อง ระหว่างหน้าต่างเป็นเรื่องสามก๊ก และระหว่างประตูเป็นภาพเทพฮกลกซิ่วและเครื่ิองมงคลจีน ใบเสมาอยู่ในซุ้มสี่เหลี่ยมเจาะช่องกลม 8 ทิศ ข้างหน้ามีพระสังกัจจายน์ และพระสีวลีปางนั่ง (ซึ่งปกติจะยืน) อยู่หน้าเก๋งจีนขนาดเล็ก นอกกำแพงแก้วด้านซ้ายมีพระวิหาร ลักษณะเดียวกับพระอุโบสถ แต่มีขนาดเล็กกว่า หน้าบันมีรูปเครื่องมงคลจีน มีพระปางมารวิชัยเป็นพระประธาน ข้างหน้ามีพระปางมารวิชัยขนาดใกล้เคียงกัน 1 องค์ ข้างหน้ามีเจดีย์ย่อมุมไม้ยี่สิบสีขาว มีเจดีย์ทรงปรางค์ฐานย่อมุมไม้ยี่สิบสีขาวขนาดเล็ก 2 ข้าง ด้านหลังมีเจดีย์ทรงปรางค์ฐานหกเหลี่ยมสีขาวขนาดใหญ่อยู่ติดกำแพงแก้ว บริเวณหน้าพระอุโบสถมีเจดีย์ประธาน ย่อมุมไม้ยี่สิบสีขาวขนาดใหญ่ มีกำแพงแก้วล้อม ด้านขวามีพระวิหารอีกหลัง ผมคิดว่าเดิมเป็นพระอุโบสถ แต่ถูกเปลี่ยนให้เป็นพระวิหารหน้าบันมีรูปเครื่องมงคลจีน ไม่มีระเบียงรอบ มีพระปางมารวิชัยเป็นพระประธาน มีพระอัครสาวกยืนและนั่ง 2 ข้าง มีพระขนาดรองตั้งล้อมแบบสมัยอยุธยา ปกติพระวิหารทั้ง 2 ไม่ได้เปิดให้เข้า ผมไปตอนสายวันอาทิตย์กำลังทำความสะอาดจึงได้เข้า บริเวณริมคลองมีศาลาท่าน้ำหน้าบันแกะสลักลายดอกพุดตานสวยงามมาก