4 /5 ภักดี เลิศรุ่งโรจน์: วัดปทุมคงคา เป็นอีกหนึ่งวัดใกล้ตัว ที่เดินผ่านหน้าวัดไปๆ-มาๆตั้งแต่จำความได้ จนกำลังจะเข้าวัยเกษียณ แต่ก็ไม่เคยคิดจะเข้าไปเยี่ยมชมแม้แต่ครั้งเดียว
วันนี้ได้ฤกษ์ ตั้งใจมาจากบ้านว่าจะมาเยี่ยมชมวัดโดยเฉพาะ เสียดายที่ทั้งวิหารและพระอุโบสถไม่ได้เปิดให้เข้าไปสักการะพระประธาน แต่ถือว่ายังมีวาสนา หลวงตาท่านกวาดลานวัดมาถึงประตูพอดี จึงได้มีโอกาสขอเข้าไปเดินชมบริเวณให้เป็นบุญตา ซึ่งหลวงตาท่านก็มีเมตตาอนุญาตเข้าไปเดินวนได้ 1 รอบ วัดสวยกว่าที่คิดมาก บริเวณก็สะอาด น่าเสียดายที่ปัจจุบันวัดเป็นเป้าหมายของเหล่ามิจฉาชีพที่ขยันเข้ามาขโมยของวัด มากกว่าประชาชนที่ตั้งใจมาทำบุญ วัดส่วนใหญ่จึงปิดเพื่อป้องกันการโจรกรรม แต่หากเรามีความตั้งใจจริงที่จะขอเข้าไปกราบพระ สามารถติดต่อทางวัด หลายวัดจะมีพระผู้ดูแลมาอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้
วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท เดิมชื่อ วัดสำเพ็ง ตามชื่อถนนหน้าวัด ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 1 พระราชทานนามใหม่ว่า "วัดปทุมคงคา"
วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร เป็นวัดที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเมื่อครั้งแรกสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ โปรดเกล้าฯ ให้พระยาธรรมาธิกรณ์ (บุญรอด บุณยรัตพันธ์) กับพระวิจิตรนาวี เป็นแม่กองคุมช่างและไพร่ไปกะที่สร้างพระนครใหม่ ณ ฝั่งตะวันออก โปรดเกล้าฯ ให้พระยาราชาเศรษฐี และพวกคนจีน ย้ายไปตั้งบ้านเรือนอยู่ในที่สวน ตั้งแต่คลองวัดสามปลื้ม (วัดจักรวรรดิราชาวาส) ไปจนถึงคลองวัดสำเพ็ง (วัดปทุมคงคา) และเห็นว่าเป็นวัดโบราณที่ทรุดโทรมมาก สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทจึงได้โปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมแซมขึ้นใหม่ทั้งวัด เมื่อกรมพระราชวังบวรสุรมหาสิงหนาททรงปฏิสังขรณ์และสร้างเสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชจึงพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดปทุมคงคา"
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่วัดเริ่มทรุดโทรมอีกครั้ง พระยาสวัสดิวารีได้กราบทูลขอทำการบูรณปฏิสังขรณ์ แต่บูรณปฏิสังขรณ์ยังไม่ทันเสร็จ พระยาสวัสดิวารีก็ได้ถึงแก่อนิจกรรมเสียก่อน และไม่มีผู้ใดรับบูรณปฏิสังขรณ์ต่อไปตลอดรัชกาลที่ 3 ครั้งถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาพิศาลศุภผล ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ และได้เพิ่มเติม โดยให้ช่างยกพระพุทธรูปในพระอุโบสถให้สูงขึ้น มีพระทรงเครื่องต้นอย่างกษัตริย์
วัดปทุมคงคา ถูกใช้เป็นที่ทำการสำเร็จโทษหม่อมไกรสรด้วยท่อนจันทน์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชกับเจ้าจอมมารดาน้อยแก้ว ธิดาพระจักรีเมืองนครศรีธรรมราชา เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2391 เป็นการสำเร็จโทษด้วยวิธีนี้ครั้งสุดท้ายกับสมาชิกราชวงศ์