5 /5 Suporn Kulwatnantachai: วัดเก่าแก่ขนาดไม่ใหญ่ แต่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปจากการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพพระภิกษุไร้ญาติทุกวันสงกรานต์ 13 เม.ย.และพิธีไหว้ครูสมาคมสงเคราะห์สหายศิลปิน ทุกวันพฤหัสแรกของเดือนกันยายน ไม่ปรากฏชื่อเดิม เมื่อสมัยรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯให้มีการสร้างและปฏิสังขรณ์วัดทั่วพระนครนั้น พระพิเรนทรเทพ (ขำ ณ ราชสีมา) เจ้ากรมพระตำรวจใหญ่ขวา (ไม่ใช่พระพิเรนทรเทพสมัยรัชกาลที่ 5 ผู้เป็นที่มาสำนวนเล่นพิเรนทร์) ได้ปฏิสังขรณ์วัดนี้ ได้รับพระราชทานนามว่า วัดขำเขมการาม ตามชื่อผู้ปฏิสังขรณ์ ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 4 ท่านได้เป็นพระยานครราชสีมา พระองค์จึงแปลงนามเป็น วัดขำโคราช ตามชื่อและตำแหน่งซึ่งพระราชทานใหม่ กระทั้งสมัยรัชกาลที่ 5 จึงได้เปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดพระพิเรนทร์ ตั้งอยู่บนถนนวรจักร เยื้องคลองถมเซ็นเตอร์ เมื่อเข้าวัดจะมีลานที่จอดรถเก็บเงิน ทางขวามือจะเห็นพระอุโบสถแบบพระราชนิยมในสมัยรัชการที่สาม หันหน้าไปทางทิศตะวันออกสู่ถนน หน้าจั่วเป็นปูนปั้นลายพฤกษา มีช่อฟ้าใบระกาและหางหงส์เป็นปูนปั้นรูปพญานาค เสารอบอุโบสถก่อเป็นซุ้มยอดแหลม ใบเสมาติดที่กำแพงอุโบสถ มีหลวงพ่อยิ้มพระปางสมาธิเป็นพระประธาน ด้านหน้าและด้านข้างมีพระนั่ง 7 องค์ ด้านหลังมีพระยืน 6 องค์ ถัดเข้าไปเป็นวิหารหลวงพ่อดำ เป็นแบบขนบเดิมมีช่อฟ้าใบระกาหางหงส์ หันหน้าทางทิศตะวันออกเช่นกัน ปัจจุบันกำลังบูรณะแต่เปิดให้เข้าไปไหว้หลวงพ่อดำ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยเก่าแก่คู่วัด ด้านหลังเป็นหลวงพ่อเพชรพระปางมารวิชัยเช่นกัน ข้างวิหารด้านขวามีเจดีย์ทรงลังกาสีทอง ด้านซ้ายตรงกลางระหว่างพระอุโบสถกับวิหารมีอาคารเก๋งจีนเป็นที่บูชาวัตถุมงคลของวัด ด้านหลังเป็นมณฑปพระเทพคุณาธาร (ผล ชินปุตโต) อดีตเจ้าอาวาสผู้พัฒนาวัดให้มีความเจริญ มีพระภิกษุสามเณรและศิษย์วัดจำนวนมาก เป็นแหล่งผลิตบัณฑิต เช่น สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์.ปยุตโต) ที่เคยจำพรรษาและดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดนี้ยังมีชื่อเสียงด้านดนตรี เคยเป็นที่จัดประชันวงปี่พาทย์ ทางด้านหลังวัดมีศาลปู่ฤษีอาคารทรงจตุรมุข เป็นที่ตั้งสมาคมสงเคราะห์สหายศิลปิน เมื่อสัปดาห์ก่อนผมได้มาไหว้พระเก้าวัดแถบสำเพ็งเยาวราช วันนี้ผมมาไหว้พระต่อแถบวรจักรนางเลิ้ง เริ่มจากวัดพระพิเรนทร์ แล้วจะไปต่อวัดดิสานุการามครับ