วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร

Traveler Adventure 14/12/67 ไปใช้บริการมาเจ้าหน้าที่ช่อง22สวยน่ารัก มารยาทดีพูดจาไพเราะให้คำแนะนำดีขอชื่นชมนะครับ

yos partunum วัดใหญ่ มีเรียนฝึกสมาธิ แนว หลวงพ่อวิริยังค์ มาหลายรุ่น ตอนนี้มีรุ่นพิเศษ อบรมวันเดียวจบ เพื่อไปฝึกทำสมาธิได้เองกำลังรับสมัครอยู่ สนใจสมัครได้

Billy Than ไม่ได้มานานมาก วัดสวยงาม เป็นระเบียบ สะอาดสะอ้าน ตอนกลางคืนประดับตกแต่งไฟสวย ถ้าจะขึ้นภูเขาทอง อยากให้มีป้ายบอกชัดเจน สื่อสารให้นักท่องเที่ยวเข้าใจง่ายๆ เปิดปิดเป็นเวลา แต่วันพระใหญ่จะปิดดึก

nutphop PJ "รถไฟฟ้า airport rail link" สถานีดอนเมือง ปัจจุบันใช้ร่วมกับ "สถานีรถไฟ" สถานีดอนเมือง ถือว่าใช้พื้นที่ได้เกิดประโยชน์ มีห้องน้ำบริการ มีที่นั่งพักคอย เพียงพอ ถ้าใช้บริการครั้งแรก อาจจะแปลกตาหน่อย มีช่องที่มีเจ้าหน้าที่บริการ ให้สอบถามได้หลายจุด นั่งรถด่วน 75 Express กทม- หนองคาย ลงสถานีบ้านไผ่ ตรงเวลาดี ถือเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงเทศกาล ที่รถติดถนนมิตรภาพ

kittiratch รูปนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 08/09/2567 2024วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร (จอมทอง) วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่น่าสนใจในกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ในเขตจอมทอง วัดแห่งนี้มีความโดดเด่นทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ และสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานความเป็นไทยและจีนได้อย่างลงตัวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เดิมทีวัดแห่งนี้มีชื่อว่า วัดจอมทอง ก่อนจะได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 3 จนมีสภาพดังเช่นปัจจุบัน การผสมผสานสถาปัตยกรรมไทยและจีนสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศในสมัยนั้น สถาปัตยกรรมที่โดดเด่น * พระอุโบสถ: เป็นจุดเด่นของวัด ด้วยหลังคาทรงจีนสองชั้น แต่ใช้วัสดุและลวดลายแบบไทย หน้าบันประดับกระเบื้องเคลือบสีสันสวยงาม ภายในประดิษฐานพระประธานปางสมาธิ * พระวิหาร: มีสถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงกับพระอุโบสถ แต่มีขนาดเล็กกว่า * พระพุทธไสยาสน์: พระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะมุมมองที่พระเศียรของพระพุทธรูปทะลุออกมาจากหลังคาอุโบสถ ศิลปะที่งดงาม ภายในวัดประดับด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เล่าเรื่องราวทางพุทธศาสนา และลวดลายที่สวยงาม นอกจากนี้ ยังมีพระพุทธรูปและพระบรมรูปต่าง ๆ ให้ได้สักการะ บรรยากาศที่เงียบสงบ วัดราชโอรสารามเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การมาทำบุญ สวดมนต์ หรือเพียงแค่มานั่งพักผ่อนใจ บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ ร่มรื่น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหาความสงบในใจกลางเมือง สิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ * พิพิธภัณฑ์: ภายในวัดมีการจัดแสดงโบราณวัตถุและเครื่องใช้ต่างๆ ที่น่าสนใจ * กิจกรรมทางศาสนา: วัดจัดกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ ตลอดทั้งปี เช่น การสวดมนต์ การทำบุญ ข้อแนะนำสำหรับผู้มาเยือน * การแต่งกาย: ควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อย * การถ่ายรูป: ควรขออนุญาตก่อนถ่ายรูปในบริเวณที่ห้ามถ่ายภาพ * การทำบุญ: สามารถทำบุญได้ตามกำลัง * การรักษาความสะอาด: ช่วยกันรักษาความสะอาดภายในวัด สรุป วัดราชโอรสารามราชวรวิหารเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม หากมีโอกาสได้มาเยือนกรุงเทพมหานคร ไม่ควรพลาดที่จะแวะมาสักการะและสัมผัสความสวยงามของวัดแห่งนี้ คำแนะนำเพิ่มเติม: สามารถเดินทางมาวัดได้โดยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถโดยสารประจำทาง รถไฟ * เวลาเปิด-ปิด: ควรตรวจสอบเวลาเปิด-ปิดวัดก่อนเดินทาง * ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ช่วงเช้าหรือเย็นจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการมาเยี่ยมชม เพราะอากาศไม่ร้อนเกินไป หากมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้เลยค่ะ หากผิดพลาดประการไดต้องขออภัยครับ ขอบคุณครับ #วัดราชโอรสาราม #เที่ยวกรุงเทพ #วัดสวย #ทำบุญ

Mooaorcafe ถ้าพูดชื่อวัดสัมพันธวงศ์ สายมูเตลู เค้ารู้กันว่า มาวัดนี้เพื่อมาไหว้แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม เพื่อมาขอพร ขอให้หายจากอาการเจ็บป่วย วัดนี้อยู่ใจกลางเมือง แต่ร่มรื่น แน่นอนเราไปวัดนี้พุ่งไปที่เรือนไทยเพื่อไปขอพรแม่ชีบุญเรือน ภายในจะมีรูปปั้นแม่ชีให้กราบไหว้ บริเวณโดยรอบจะมีประวัติและของดีของบูชาของแม่ชี ในสมัยที่คุณแม่บุญเรือนยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านเป็นที่เคารพนับถือในหลายด้าน ทั้งในเรื่องของโชคลาภ ค้าขาย การรักษาโรค รวมไปถึงการพลิกฟื้นชะตาชีวิตที่ตกต่ำให้กลับมาดีกว่าเก่า ตลอดจนในด้านการสั่งสอนธรรมะเพื่อการหลุดพ้น ใครที่บูชาท่านจึงได้พบกับความอัศจรรย์อย่างยิ่ง และมีชีวิตที่เจริญก้าวหน้า สมกับคำที่คุณแม่บุญเรือนเคยกล่าวไว้ว่า "ใครเจอคนเรา คนนั้นโชคดี" และใครอยากโชคดีต้องสวดมนต์คาถาของแม่ชีด้วยนะ คาถาพระฉิมพลี หรือ คาถาพระสีวลี นี้คุณแม่บุญเรือนได้จากสมาธิจิตเมื่อวันศุกร์ที่ ๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ จากตำราที่บันทึกไว้ได้ระบุว่า เป็นคาถาที่ท้าวสักกเทวราชหรือพระอินทร์นำมาถวายแด่คุณแม่บุญเรือน โดยเนื้อหาบทสวดได้กล่าวสรรเสิญพระฉิมพลี ซึ่งเป็นอีกพระนามของพระสิวลี ผู้เป็นเลิศด้านโชคลาภ ใครที่ได้สวดเป็นประจำจะมีผลช่วยเสริมดวงโชคลาภ เรียกทรัพย์ ส่งผลให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองไม่อับจน มีโอกาสพลิกชีวิตได้อย่างน่าอัศจรรย์ บทสวดพระคาถาฉิมพลี นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ นะชาลีติฉิมพาลี จะ มหาเถโร สุวรรณะมามา โภชนะมามา วัตถุวัตถามามา พลาพลังมามา โภคะมามา มหาลาโภมามา สัพเพชะนา พหูชะนา ภวันตุเม โดยจะได้ผลดีต้องสวดตามกำลังวัน วันอาทิตย์ 6 จบ วันจันทร์ 15 จบ วันอังคาร 8 จบ วันพุธ 17 จบ วันพฤหัสบดี 19 จบ วันศุกร์ 21 จบ วันเสาร์ 10 จบ ลำดับการขอพรนั้น จะเริ่มต้นจาก การกราบบูชาพระรัตนตรัย คุณแม่บุญเรือน จากนั้น ให้เตรียมธนบัตรสามใบ จะกี่บาทก็ได้ ดบื้องหน้าภ้าเราหันหน้าเข้ารูปปั้น คุณแม่บุญเรือน ทั้งซ้ายและขวา จะมีตุ่มใบขนาดกลางสีเขียวอ่อน และตรงกลางจะมีพานครูสีทองวางอยู่ ให้เริ่มต้นนำปัจจัยมาจบขอพร และเน้นย้ำว่าให้ขอเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น จากนั้น ให้เดินเข้าไปที่ตุ่มด้านซ้าย ขอพรในเรื่องที่จะขอ แล้วหย่อนธนบัตรลงไป ถ้าไปขอพรแม่ชี ส่วนใหญ่จะนำกล้วยเป็นเครือมาถวายเมื่อได้รับพรที่สำเร็จตามกำลังที่เราสามารถถวายได้ หลายคนทำมาแล้วสำเร็จ ลองไปดูนะคะ

Prayuth Wongsuwan PPP วัดเทพพลอาจเรียกว่า วัดใหม่ วัดใหม่บางพรม หรือ วัดใหม่เทพพล จากข้อมูลของกรมการศาสนาระบุว่าสร้างในปี พ.ศ. 2108 (สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น) แต่อีกข้อมูลหนึ่ง ในปี พ.ศ. 2513 พบแผ่นไม้มีจารึกระบุปี พ.ศ. 2306 พออ่านได้ว่านายแสงกับนางฉิม สร้างพระพุทธรูปและก่อเจดีย์(ปัจจุบันเข้าใจว่าจารึกนี้สูญหาย) แต่เดิมเคยมีเจดีย์ทรงมอญองค์ใหญ่ แต่ถูกรื้อคงเหลือแต่ใบเสมาดินเผา ในสมัยพระครูวิศิษฎ์บุญญาคม (บุญมา จันทูปโม) เป็นเจ้าอาวาส มีการก่อสร้างเขื่อนริมคลองลัดวัดใหม่และทำกำแพงล้อมรอบวัด สร้างสะพานข้ามคลองด้านหลังวัด ประชาชนได้ช่วยกันบริจาคซื้อที่ดินเพิ่มอีก 3 ไร่เศษ ซึ่งเป็นที่ก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่และศาลาการเปรียญในปัจจุบัน มีการหล่อหลวงพ่อใหญ่และดำเนินการนำไฟฟ้าเข้ามาในวัด ต่อมาในสมัยพระครูสิทธิธรรมโสภณ (สุเทพ ภูริปญฺโญ) เป็นเจ้าอาวาส ได้ย้ายกุฏิสงฆ์ที่มีอยู่เดิมไปปลูกขึ้นใหม่ สร้างศาลาการเปรียญสองชั้น หอสวดมนต์ วิหารหลวงพ่อใหญ่ วิหารหลวงพ่อปาน หอระฆัง มณฑป ศาลาอเนกประสงค์ เมรุ ซุ้มประตูทางเข้าวัด กำแพงด้านหน้าวัด อุโบถหลังปัจจุบัน และวิหารหลวงปู่เทพโลกอุดร วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งหลังเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2547 ข้อมูลจาก wikipedia เป็นวัดใหญ่มีสิ่งก่อสร้างมากมาย สะอาด สงบ ร่มเย็น

Art C English is below ไม่ได้มาที่วัดไตรมิตรตั้งนานแล้ว มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะพอสมควรเพื่อมาชมพระพุทธรูปทองคำ นอกจากนี้ก็จะมีในเรื่องของพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับวัดไตรมิตรและกรุงรัตนโกสินทร์ ถ้าอยากรู้เกี่ยวกับประวัติของวัดไตรมิตรก็ลองไปหาดูใน google ซึ่งมีอยู่เยอะแยะมากมาย ถ้าจะขับรถมาก็อาจจะต้องจอดริมถนนซึ่งวันธรรมดาอาจจะหายากมากถ้ามาวันเสาร์หรือวันอาทิตย์อาจจอดบ้าง Its been ages since I last visited Wat Trimitr. Its always packed with tourists wanting to see the golden Buddha. They also have a museum about the temple and Rattanakosin. If you want to know more about its history, just Google it – theres tons of stuff online. If youre driving, finding street parking can be a pain, especially on weekdays. Weekends might be a bit easier.

พิชัย แตงอ่อน วัดพระศรีมหาอุมาเทวี ชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดแขกสีลม สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2422 โดยชาวอินเดียกลุ่มหนึ่งที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ ในกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ซื้อที่ดินบริเวณถนนสีลมสร้างเป็นเทวสถานของ เจ้าแม่ศรีมหาอุมาเทวี เป็นรูปศาลาขนาดเล็ก ให้ชื่อว่า ศาลาศรีมรีอัมมัน เป็นสถานที่เคารพบูชาของชาวอินเดีย ไทย และจีนในยุคนั้น ทั้งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของกลุ่มชาวอินเดียทมิฬ ผู้ซึ่งได้นำเอาอารยธรรมของอินเดียออกไปเผยแพร่ในภาคพื้นเอเชีย ในปีต่อมาชาวอินเดียที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ย่านถนนสีลม ได้ร่วมมือกับชาวอินเดียทั่วๆ ไปสร้างพระอุโบสถขึ้น และได้นำองค์เจ้าแม่ศรีมหาอุมาเทวีขึ้นประดิษฐานใน พระอุโบสถ และต่อมาได้นำองค์เทวะต่างๆ จากประเทศอินเดียมาประดิษฐานรวมไว้อีกด้วย จากนั้นได้จัดให้มีงานเทศกาลประจำปีให้เป็นประเพณี เรียกว่าเทศกาล ดูเซร่า หรือ เนาวราตรี ซึ่งเป็นพิธีเก่าแก่สืบเนื่องมาตั้งแต่ครั้งสมัยพระเวท (ยุคพราหมณ์) โดยมีการประกอบพิธีบูชาองค์เจ้าเเม่อุมาเทวี และองค์เทวะต่างๆ รวม 10 วัน 10 คืน และในคืนสุดท้ายของงาน จะมีการอัญเชิญองค์เจ้าแม่อุมาเทวี ออกแห่ไปนอกวัดอีกด้วย ทำเลที่ตั้ง และการเดินทางมายังวัดแขก สีลม โบสถ์พราหมณ์แห่งนี้มีทำเลที่ตั้งอยู่บนเลขที่ 2 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก ของจังหวัดกรุงเทพฯ สำหรับวัดแขก สีลม การเดินทางมาที่นี่ไม่ยุ่งยาก เพราะห่างจากสนามหลวงราว 3 กิโลเมตร มีจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สะดวกสบาย เดินทางมาได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น รถประจำทางสาธารณะ, รถไฟฟ้า BTS ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นจากสถานีช่องนนทรี มายังสถานีสีลม เดินเท้าไปใช้บริการวินมอเตอร์ไซต์อีกต่อก็ถึงที่หมายได้อย่างรวดเร็ว หรือจะใช้บริการแท็กซี่สำหรับผู้ที่อยู่ไม่ไกล มากับเพื่อนหลายคน ก็สามารถเดินทางได้สะดวก มิเตอร์ไม่แพงอย่างที่คิดอีกด้วย แต่ทั้งนี้อย่าลืมเช็คด้วยว่าวัดแขก สีลม เปิดกี่โมง เพื่อจะได้วางแผนการเดินทางมาในช่วงที่คนไม่เยอะ โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป ใครไม่อยากเจอคนเยอะ แนะนำว่ามาช่วงเช้า ส่วนใครที่เน้นมาช่วงบ่าย ๆ ก็ต้องเช็คด้วยว่าวัดแขกปิดกี่โมง ซึ่งปกติก็จะปิดไม่ให้เข้าไปไหว้ตอนเวลา 20.00 น. ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่ต้องเร่งรีบ ใครสะดวกเช้าก็มาเช้า ใครสะดวก บ่าย หรือรอบค่ำก็ลองแวะมาได้ ส่วนในวันที่มีขบวนพิธีนวราตรี ช่วงเวลาปิดจะยืดไปจนถึงเที่ยงคืน องค์เทพประจำภายในวัดแขกที่สายมูต้องรู้จัก เนื่องจากลัทธิศักติมีการนับถือเทพีเป็นหลัก ภายในวัดพระศรีมหาอุมาเทว คือเทวสถานที่มีมี 3 เทพีประดิษฐานอยู่ ทั้งหมดล้วนเป็นพระชายาของมหาทพตรีมูรติ ได้แก่ 1.พระนางลักษมี ชายาพระวิษณุ เป็นเทพีผู้ดูแลโลก เทพีแห่งความงามทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงความมั่งคั่งและร่ำรวย นิยมมาบูชาและขอพรเกี่ยวกับความเจริญรุ่งเรือง ความสำเร็จด้านธุรกิจและการเงิน 2.พระนางอุมาเทวี ชายาพระศิวะ เป็นเทพีแห่งการทำลายโลกและทำลายความชั่วร้าย มีความเมตตากรุณา เน้นไปขอพรเกี่ยวกับการงาน ความสำเร็จ อำนาจ และยังเป็นเทพแห่งความสง่างาม นอกจากนี้ยังนิยมมีคนมีขอพรเรื่องความรักและเรื่องขอบุตรอีกด้วย 3.พระนางสรัสวดี ชายาพระพรหม เทพีผู้สร้างโลก เต็มไปด้วยความเฉลียวฉลาด รอบรู้ ท่านคือสัญลัฏษณ์ศาสตร์ศิลปะ การดนตรี การวาดภาพ การเขียนหนัง และศิลปะในแขนงอื่นอีกมากมาย ผู้คนนิยมแวะมาบูชาเพื่อขอพรด้านความรอบรู้ ความเชี่ยวชาญในการทำงาน และความฉลาดทันคน

Wanchana Sawangthanakit MRT พหลโยธิน มาครั้งแรกอาจสู้สึกงงๆ บ้าง ลงหลายชั้นกว่าจะเจอสถานีรอรถไฟ แต่ที่นี่ดูดีและสวย มีโซนสำหรับจัดงานศิลปะและนิทัศการมีร้านอาหารและของกินด้วย