5 /5 แก้กรรม บริหารกรรม: เป็นวัดที่ส่งเสริมการศึกษา ให้คนได้ตระหนักถึงกฎแห่งกรรม กลัวการทำบาป
การแก้กรรม คือ แก้ตรงที่ ให้เราสำนึกว่าตรงนั้นเราทำผิด แล้วต่อไปเราจะไม่ทำอกุศลกรรมเช่นนั้นอีกต่อไป มาทำสัญญากันใหม่ ตั้งปณิธานใหม่ เราก็ต้องมาทำสัญญากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สัญญากับเจ้ากรรมนายเวรว่าเราจะไม่ทำอกุศลกรรมเช่นนั้นอีกต่อไป๛
การแก้กรรม ก็คือ การแก้พฤติกรรม เราต้องแปลให้ถูก๛
การแก้กรรม หมายความว่า แก้พฤติกรรมที่เคยทำมาอย่างนั้นที่ไม่ดี การที่เราแก้ไขพฤติกรรมที่มาอย่างนั้นแล้ว เขาก็จะไม่ก่อกรรมเช่นนั้นอีก ก็เท่ากับไม่ทำกรรมเพิ่ม ถ้าเขาไม่รู้แล้วไปทำกรรมตรงนั้นอีก ก็เอาแต่เพิ่มกรรมอยู่เรื่อย ต้องให้แก้พฤติกรรมตรงนั้น ไม่ใช่ไปแก้กรรมที่เคยทำมาแล้ว แก้แล้วให้หมดไปอย่างนี้ไม่มี เราไม่ใช่ย้อนอดีตแล้วไปแก้ อย่างนี้ไม่ใช่ แต่เราย้อนอดีตมาเป็นบทเรียน เป็นอุทาหรณ์ เราไม่ใช่แก้ตรงนั้นให้เปลี่ยนผลอดีตได้ อย่างนี้ไม่ได้๛
การแก้กรรมนี้ แก้ได้ แต่ยกเลิกกรรมที่เคยทำมาแล้วนั้นไม่ได้ อย่าเข้าใจผิด “การยกเลิก” กับ “การแก้” นี้ไม่เหมือนกัน๛
คนทั่วไปคิดว่า การแก้ก็คือยกเลิก ยกทิ้งไปที่เคยทำกรรมที่ไม่ดีตรงนั้น ไม่บาปแล้ว อย่างนี้ไม่ใช่๛
วิบาก แปลว่า ผลที่เกิดแล้วทั้ง ๒ ฝ่าย ๛ หมายความว่า ผลของการกระทำ คือ ทั้งสองฝ่ายได้ทำตอบรับซึ่งกันและกัน๛
หมายถึง ผู้กระทำได้ทำแล้ว และผู้ที่รับ ก็ได้รับผลของเขาที่ได้ทำนั้นแล้ว๛ วิบากกรรม คือ เหตุที่เราสร้างไว้ก่อนแล้ว ย่อมมาส่งผล๛1~12
กรรมอดีตของเรา เราไม่สามารถไปลบล้างได้ เพราะว่า เราได้ทำไปแล้ว เป็นอดีตไปแล้ว เราจะไปลบล้างได้ยังไง?
ในเมื่อเราทำมาแล้ว? ๛
อดีตเราลบล้างกรรมไม่ได้ แต่เราแก้ไข เคลียร์ บริหารกรรมได้ เช่น เราติดเงินเขา ๕๐๐ บาท เงิน ๕๐๐ บาทนี้ลดให้ไม่ได้ ต้องชำระหนี้ แต่เวลานี้เรามาทำดีต่อเขา เขาบอกว่าเขาไม่เอาเงินคืน ๕๐๐ บาทแล้วได้ แต่เราจะไปลดที่เราเคยยืมเงินเขา ๕๐๐ บาทนี้ไม่ได้ เราติดหนี้ก็คือติดหนี้เขา แล้วจะมาบอกว่า เราไม่ได้ติดหนี้เขาแล้ว อย่างนี้ไม่ได้๛
กรรมไม่มีอดีต ปัจจุบัน อนาคต ฉะนั้น เราจะมาเคลียร์แรงปัจจุบันก็ได้ และจะไปเคลียร์แรงกรรมอนาคตก็ได้ แต่เราไปเปลี่ยน “ค่า” แรงกรรมตรงนั้นไม่ได้ ค่าแรงกรรมนั้นตายตัว แต่มีวิธีหนึ่งที่จะทำให้แรงกรรมนั้นสลายได้ ในธรรมชาติเขาก็มีให้ คือ “อโหสิกรรม” กรรมที่ได้รับการอโหสิ๛2
“อดีตแก้ไม่ได้” เพราะว่าเป็นอดีตไปแล้ว สำเร็จไปแล้ว แต่สิ่งที่สำเร็จไปแล้วแต่มันมีส่งผลวิบาก เราต้องแก้ที่วิบาก ไม่ใช่แก้ที่ “ผล” ๛
เราแก้กรรมที่มีวิบากก็คือ ๛ ๑. เราไม่กระทำกรรมนั้นซ้ำอีก ๒. เราต้องเคลียร์กับเจ้ากรรมตรงนั้น เหมือนกับเราติดหนี้ เพราะเราติดหนี้ไปแล้วใช่ไหม? เราต้องการเคลียร์หนี้ ทีนี้เราต้องยอมรับว่าเราเป็นหนี้ และเคลียร์กับเจ้าหนี้ วิบากกรรมถึงจะลด ๛
เขาเรียกว่า เคลียร์ที่ “วิบาก” ไม่ใช่ที่ “ผลกรรม”๛
แต่ถ้าบางคนบอกว่าเคลียร์ที่ผลกรรม ซึ่งเคลียร์ที่ผลกรรมไม่ได้ เพราะว่ามันเป็นอดีตไปแล้ว อดีตของกรรมมันบรรลุไปแล้ว ผลมันเกิดไปแล้ว แต่เหตุแห่งกรรม วิบากจะสืบเนื่อง๛ อะไรมันคือเหตุวิบาก๛
ก็คือเหตุที่เราไปทำวิบากอะไรล่ะ เช่น เราไปตีหัวเขา ก็จะเป็นวิบาก ก็จะกลายเป็นผล คือ ได้ตีหัวเขา และเขาเจ็บหัวแล้ว๛ แต่วิบาก คือ สิ่งที่เรา “ไปกระทำ ไปตี” เราต้องมาเคลียร์เหตุ คือ “ไปตีเขา”๛
เราบอกว่า แผลที่หัวให้หาย ไม่มีรอยแผล หรือไม่เคยถูกตี เป็นไปไม่ได้ แผลก็ต้องเป็นแผลไปแล้ว เราจะต้องมีเคลียร์ที่ใจ “บอกว่า ตรงนี้อย่าถือโกรธเรานะ เราจะส่งกุศลไปให้นะ” ๛
มาเคลียร์ที่เหตุ ก็คือ จิตใจของเขายังผูกอยู่๛
คนทั่วไปไม่เข้าใจตรงนี้ เลยบอกว่า ของเก่า กรรมเก่าแก้ไม่ได้ แต่มันแก้ได้ที่ “เหตุ” ๛
แก้ที่ “วิบาก” ไม่ใช่แก้ที่ผลแห่งกรรม ผลแห่งกรรมตรงนั้นมันสำเร็จไปแล้ว๛3